จูแมนจี้ เกมดูดโลกมหัศจรรย์ เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์

จูแมนจี้ สวัสดีค่ะนักอ่านและเขียนทุก ๆ ท่าน วันนี้เราจะมารีวิวหนังเรื่อง Jumanji: Welcome to the Jungle เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ เป็นหนังที่สร้างโดยค่ายโคลัมเบีย พิคเจอร์ส & โซนี่ พิคเจอร์ส โดยในภาคนี้ได้ผู้กำกับฝืมือดีอย่าง เจค แคสแดน ที่โด่งดังมาจากการกำกับหนังเรื่อง Bad Teacher & Sex Tape มากำกับหนังเรื่องนี้ด้วย สำหรับหนัง จูแมนจี้ ภาคนี้เป็นภาคต่อของหนังจูแมนจี้ที่เคยโด่งดังในอดีตที่เคยฉายไปเมื่อปี 1995จะกล่าวถึึงนักเรียนไฮสคูลสี่คนได้พบกับเกมคอนโซลเก่า ๆ ที่นำพาพวกเขาหลุดจากโลกความเป็นจริง ให้เข้าไปในเกมส์จนต้องกลายเป็นผู้ใหญ่เหมือนในคาแรคเตอร์ที่เคยเลือกไว้ พวกเขาจึงค้นพบความจริงว่าเกมส์ ๆ นี้ ไม่ใช่แค่เพียงเล่น แต่พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเกมพิศดารนี้ให้ได้ เพราะถ้าเกมส์โอเวอร์หรือเขาตายในเกมส์ นั่นหมายความว่าพวกเขาทั้งสี่คนจะต้องตายในโลกความเป็นจริงด้วย

 

เรื่องย่อ จูแมนจี้

จูแมนจี้  สำหรับจูแมนจี้ภาคนี้จะมีนักแสดงนำหลักทั้งหมด 4 คนด้วยกัน คนแรกได้แก่ Dwayne Johnson (เดอะร๊อค) รับบท ดร.สโมลเดอร์ เบรฟสโตน , Karen Gillan (คาเรน กิลแลน) รับบท รูบี้ ราวด์เฮ้าส์ , Jack Black (แจ็ก แบล็ก) รับบท ศาสตราจารย์ เชลลี่ โอเบรอน , Kevin Hart (เควิน ฮาร์ท) รับบท มูส ฟินบาร์ หลักจากที่ทั้งสี่คนโดนเกมส์จูแมนจี้ดูดเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาพบว่าตัวเองถูกวีดีโอเกมส์ส่งมากลางป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยอันตรายต่าง ๆ มากมาย และพวกเขาก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อพบว่ารูปร่างหน้าตาของพวกเขาได้ถูกเปลี่ยนไปตามที่เขาได้เลือกไว้ ก่อนที่จะถูกดูดเข้ามาในเกมส์ สเปนเซอร์ หนุ่มผอมแห้ง บ้าเกมส์ ไร้เรี่ยวแรงกลายเป็น ดร.สโมลเดอร์ เบรฟสโตน ที่กล้ามใหญ่ แข็งแรงและทรงพลัง เบธานี สาวสวยที่วัน ๆ ห่วงแต่ความงาม กลายเป็น ศาสตราจารย์ โอเบรอน ที่อ้วนฉุ แต่ฉลาดเป็นกรด แอนโทนี่ ฟริดจ์ หนุ่มนักฟุตบอลสุดล่ำ กลาย มูส ชายร่างเล็กสะพายเป้ผู้อ่อนแอแต่มีความไวเป็นเลิศ มาร์ธา สาวขี้อายกลายเป็น รูบี้ ยอดคอมมานโดสุดเซ็กซี่ jumanji

พวกเขาทั้งหมดจะต้องรักษาชีวิตในเกมส์ที่มีให้เล่นซ้ำได้เพียงสามครั้ง และต้องเจอกับภารกิจสุดโหดต่าง ๆ รวมทั้งการชิงดวงตาจากัวร์เพื่อให้จบเกมส์ และกลับสู่โลกความเป็นจริง โดยรวมแล้วเราว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุกมากนะ การดำเนินเรื่องก็ไม่ยืดเยื้อจนเกินไป ฉากแอ็คชั่นต่าง ๆ ก็โอเค และที่ชอบมากที่สุดก็น่าจะเป็นมุขตลกมุขฮาของหนังเรื่องนี้ เรียกว่ามีออกมาตลอดทั้งเรื่องจริง ๆ

 

อารมณ์ของหนังมีกลิ่นอายของภาคก่อนแบบเต็มๆ เป็นเหตุการณ์ที่ทิ้งช่วงเวลาจากภาคที่แล้ว 3-4 ปี ทั้งตัวละครที่นักแสดงต้องสวมบทบาทในเกมยังอยู่กันครบ แถมเพิ่มตัวละครใหม่เข้าไปเสริม และฉากใหม่ที่ไม่ใช่แค่ในป่า ทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น ใครที่หวังว่าจะเป็นแนวภาพยนต์เด็กแฟนตาซีทอยลูกเต๋าแบบภาคแรกต้องลืมไปซะ เพราะหนังยังรักษาโทนของภาคที่แล้วเอาไว้ ถ้าชอบก็ตามกันต่อ

ฉาก CG ที่น่าจะถือเป็นจุดแข็งของหนังภาคนี้ ทั้งฉากนกกระจอกเทศ และการไล่ล่าของฝูงลิง พอจะกลบบทพูดบางช่วงที่มีดราม่าชีวิตเข้ามาแทรกทำให้ดูยืดไปบ้าง แต่ภารกิจในด่านต่างๆ เพิ่มความยากแบบสุดโหด มีฉากให้ลุ้นกันเป็นระยะ กราฟฟิคในภาคนี้ดูสมจริงซึ่งก็ไม่แปลกเพราะอัดงบประมาณไปเฉพาะค่า CG ในภาคนี้ถึง 125 ล้านเหรียญ

นักแสดงยกชุดมาจากภาคที่แล้วทั้งเดอะร็อค , คาเรน กิลแลน ที่ยังรับบทมาร์ธา , แจ็ค แบล็ค และเควิน ฮาร์ท รวมถึงผู้กำกับ เจค แคสแดน จากภาคก่อน นักแสดงยังคงคาแรคเตอร์เดิม มีชีวิตอยู่ในเกมด้วยกฎกติกาเดิม ถ้าไม่ได้ดูภาคที่แล้วอาจมีงงกันนิด jumanji

ภาคนี้มีเครดิตท้ายเรื่องที่จะปูทางไปสู่ภาคต่อไป ทำให้แฟนๆ อุ่นใจว่าภาคต่อไปมีมาให้ชมกันแน่ แต่คาดว่าเนื้อเรื่องน่าจะได้เวลาฉีกแนวออกไปจากบุกป่าฝ่าดงแบบสองภาคล่าสุดได้แล้ว เรียกได้ว่าภาคนี้ได้ CG เป็นพระเอกช่วยชีวิตไว้ทำให้ความยาวของภาพยนต์กว่า 123 นาทีไม่น่าเบื่อ

สำหรับหนังเรื่องดีขอบอกเลยว่าเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีค่ะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ถือว่าพลาดอย่างแรงควรรีบหาซื้อมาดูด่วนเลยค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้สนุกและมันส์มาก ๆ ครั้งหน้าเราจะมารีวิวภาคต่อของภาคนี้ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงแค่นี้ก่อนนะ สวัสดีค่ะ จูแมนจี้

บทความที่เกี่ยวข้อง