Analog Squad (ทีมรักนักหลอก) ซีรีส์ไทยแห่งปีที่ทุกคนไม่ควรพลาด

 

Analog Squad หนังไทย Netflix แนะนำให้คอหนังรอชม เพราะนี่คือหนังที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปสู่บรรยากาศยุคแอนะล็อกอีกครั้ง เมื่อหนุ่มใหญ่คนหนึ่งต้องการไปเยี่ยมพ่อที่ป่วยหนัก ด้วยการพาคนแปลกหน้ามาสร้างครอบครัวปลอมๆ ด้วยกัน หวังเพียงให้พ่อได้สุขใจก่อนการจากลา

 

เรื่องย่อ Analog Squad

Analog Squad เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1999 ยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย และเพจเจอร์เป็นของฮิตที่สุดของยุคสมัย เมื่อ ปอนด์ (ปีเตอร์ นพชัย) ชายวัยกลางคนที่มีอดีตที่แตกสลาย ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อของเขาที่ห่างเหินกันมานานป่วยหนัก เขาจึงรับสมัครคนแปลกหน้าเพื่อมาปลอมตัวเป็นครอบครัวชั่วคราวเพื่อกลับไปเยี่ยมพ่อ

ครอบครัวสมมติของปอนด์จึงเริ่มขึ้น โดยมี ลิลลี่ (น้ำฝน กุลณัฐ) อดีตแฟนสาว รับบทเป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูก 2 คนของเขา คือ เก๊ก (เจเจ กฤษณภูมิ) เด็กหนุ่มจบใหม่ผู้มีอาชีพเป็นคอลเซ็นเตอร์ของบริษัทเพจเจอร์ และ บุ้ง (ปริมมี่ วิพาวีร์) เจ้าของร้านเช่าวิดีโอผู้หลงใหลในการแสดง

ใครจะอยู่ทีมรัก หรือใครจะเป็นนักหลอก พร้อมตามหาความหมายของความสัมพันธ์ที่เรียกว่าครอบครัวไปพร้อมกันทั่วโลกได้ใน Analog Squad ทีมรักนักหลอก ที่ออกอากาศทาง Netflix Analog Squad ทีมรักนักหลอก เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566 ทีมรักนักหลอก

รีวิว Analog Squad (ทีมรักนักหลอก) ซีรีส์ไทยแห่งปีที่ทุกคนไม่ควรพลาด เมื่อคนพังๆ มารวมตัวกันเป็นครอบครัวปลอมๆ ดูได้ทาง Netflix บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า

ผลงานซีรีส์ไทยออริจินัลจาก Netflix เรื่องนี้จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปในปี 1999 ช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่กำลังจะก้าวผ่านจากโลกอนาล็อกสู่โลกดิจิตอล ว่าด้วยเรื่องราวของ ปอนด์ (รับบทโดย ปีเตอร์ นพชัย) ที่กำลังจะกลับไปเยี่ยมพ่อที่ป่วยหนักอยู่พังงาหลังจากที่ทะเลาะกับพ่อจนไม่ได้คุยกันเกือบ 30 ปี ด้วยความที่ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่าเขาแยกทางกับภรรยาและลูกๆ ไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจไปจ้างคนอื่นมารับบทเป็นครอบครัวปลอมๆ ของเขาเพื่อกลับไปเยี่ยมพ่อและแม่ด้วยกัน

ซึ่งจะประกอบไปด้วย ลิลลี่ (รับบทโดย น้ำฝน กุลณัฐ) แฟนเก่าของปอนด์ที่จะมารับบทเป็น “แหม่ม” ภรรยาของปอนด์ เธอกำลังป่วยเป็นมะเร็งเต้านม จึงตัดสินใจรับงานเพื่อหาเงินไปผ่าตัด ต่อด้วย เก๊ก (รับบทโดย เจเจ กฤษณภูมิ) เด็กหนุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังเก็บเงินไปอเมริกามารับบทเป็น “ม่อน” ลูกชายคนเล็ก และคนสุดท้าย บุ้ง (รับบทโดย ปริมมี่ วิพาวีร์) สาวห้าวที่กำลังหาเงินไปซื้อรถคันใหม่ให้พ่อมารับบทเป็น “แม็ก” ลูกสาวคนโต โดยท้ายที่สุดแล้วครอบครัวปลอมๆ นี้จะเป็นอย่างไร เรื่องราวทั้งหมดจะไปจบลงที่ตรงไหน ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Analog Squad (ทีมรักนักหลอก) มีทั้งหมด 8 ตอน สามารถรับชมได้ทาง Netflix

 

 

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าส่วนตัวไม่ได้คาดหวังหรือรอคอยอะไรมากนัก ตอนที่เห็นตัวอย่างครั้งแรกคิดว่าเป็นหนังด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะเป็นซีรีส์ เพราะพล็อตเรื่องมันไม่น่ามีอะไรให้ไปไกลได้ขนาดเป็นซีรีส์ ทว่าพอได้มาดูจริงๆ ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ซีรีส์สนุกและดีเกินคาดไปเยอะมาก พอดูจบกลับรู้สึกว่าเขาคิดถูกแล้วที่ทำมันเป็นซีรีส์ เพราะถ้าเป็นหนังเรื่องราวมันคงไปได้ไม่ไกลและอาจไปได้ไม่สุดทางแบบนี้ เพราะเวลาในการเล่ามันคงไม่พอ ก่อนอื่นต้องขอชมเลยว่าเขาเขียนบทมาดีมากๆ คือบทเขามันไม่ได้ล้ำลึกหรือพิเศษอะไรมากมาย ทุกอย่างมันธรรมดา แต่มันเป็นความธรรมดาที่ลงตัวและสมเหตุสมผล เรื่องราวมันจับต้องได้จริงๆ ดูเป็นชีวิตคนจริงๆ มันทำให้คนดูรู้สึกอินไปด้วยได้แบบไม่เคอะเขิน จุดนี้แหละที่ถือเป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้เลย

เขาวางปมปัญหาของตัวละครแต่ละตัวออกมาดีมากๆ ตัวหลักทั้ง 4 คนคือทุกคนล้วนเป็นคนที่กำลังอยู่ในชีวิตพังๆ เริ่มจากปอนด์ ที่ทั้งล้มเหลวในหน้าที่การงาน ทะเลาะกับพ่อ เมียทิ้ง ต่อด้วยลิลลี่ที่เป็นสาวโสดสุดเหงา ถึงจะมีเงินทองแต่ไม่มีความสุข เคราะห์ร้ายดันมาป่วยเป็นมะเร็งอีก ตามมาด้วยเก๊ก เด็กหนุ่มที่อึดอัดกับอาชีพนางแบบเซ็กซี่ของแม่แต่ไม่เคยแสดงออก สุดท้ายเลือกที่จะแอบหนีไปอเมริกาเพราะไม่อยากบอกความจริงแม่ว่าตัวเองอึดอัด ปิดท้ายด้วยบุ้งที่ดูเหมือนชีวิตจะปกติที่สุด แต่แท้จริงแล้วเธอไม่รู้เลยว่าพ่อเธอมีอีกครอบครัวหนึ่ง และเธอเองก็มีน้องคนละแม่อีกคน จากนั้นเขาก็ใช้ความพังเหล่านี้มาขยี้เป็นปม จากครอบครัวปลอมๆ ที่ตอนแรกทำเพื่อเงิน แต่พออยู่ไปอยู่มาได้รับความรักจากปู่และย่า ครอบครัวปลอมๆ นี้ก็เริ่มอินและกลายเป็นครอบครัวจริงขึ้นมา เพราะทุกคนที่มารับจ้างก็ล้วนมีบางอย่างในใจที่ขาดหาย ซึ่งไอครอบครัวปลอมๆ นี่มันกลับมาเติมเต็มส่วนนั้นได้ ทีมรักนักหลอก

แต่ไม่ได้มีแค่บทเท่านั้นที่ทำออกมาได้ดี เพราะการดำเนินเรื่องเองก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน เขาค่อยๆ ผูกปมให้คนดูได้เห็นทีละนิดๆ ตัวซีรีส์จะสลับเล่าเรื่องทั้งเส้นเรื่องหลักที่ดำเนินไปในปัจจุบัน ตัดสลับกับอดีตของตัวละครแต่ละตัวเพื่อเผยปมของทุกตัวละคร ซึ่งการทำแบบนี้มันช่วยตัดเลี่ยนคนดูได้ดี ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินและสนุกไปกับมันได้เรื่อยๆ แบบไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ด้านการแสดงเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แคสต์นักแสดงมาดีงามมาก ทุกคนแสดงได้ดีและสมบทบาทกันหมดทุกคนจริงๆ ในด้านการแสดงนี่ผมไม่มีอะไรจะติเลย เล่นดีกันทุกคนทั้งซีนตลกและซีนดราม่า ปิดท้ายด้วยงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้ก็ไร้ที่ติเช่นกัน งานภาพในเรื่องนี่ทำมาคุณภาพเดียวกับหนังใหญ่เลย ถ้าไม่บอกก็ไม่คิดเลยว่าเป็นซีรีส์ การจัดแสงจัดฉากทุกอย่างมันจริงจังและสวยมาก ลามไปยันเสื้อผ้าหน้าผมและเพลงประกอบ ทุกอย่างทำออกมาได้ดีและลงตัวหมด รวมไปถึงบรรยากาศในเรื่องที่อยู่ในปี 1999 ก็ทำได้ดีมาก เขาใส่รายละเอียดในยุคนั้นมาได้อย่างแนบเนียน ไม่ได้ดูยัดเยียด ไม่ว่าจะเรื่องหนังดังๆ ในยุคนั้น เพจเจอร์ หรือแม้แต่โทรศัพท์ตู้ ทุกอย่างมันลงตัวและดูเป็นธรรมชาติไปหมด สรุปโดยรวมเลยก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์น้ำดีแห่งปี ทุกควรดูจริงๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน Analog Squad

บทความที่เกี่ยวข้อง